วันอังคารที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

คดีกู้ยืมเงิน : เจ้าหนี้ไม่ทำสัญญากู้ยืม

พฤษภาคม 09, 2560 0
credit pic : https://www.palettesoftware.com/us/products/palette-contract-en/

คดีกู้ยืมเงิน : เจ้าหนี้ไม่ทำสัญญากู้ยืม


                สวัสดีครับ คดีนี้จะไปผมก็ทำคดีลักษณะนี้บ่อยมาก ซึ่งก็จะมีคนปรึกษาบ่อยเช่น หลายๆคนก็จะปรึกษาผมมาว่า ให้คนกู้ยืมเงินไปไม่ยอมคืนเงิน แถมไม่ได้ทำสัญญาไว้ด้วยจะฟ้องร้องได้ไหม ผมได้เป็นทั้งฝ่ายเจ้าหนี้และลูกหนี้
                คดีลักษณะนี้ ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๓ การกู้ยืมเงินกว่าสองพันบาทขึ้นไปนั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ยืมเป็นสำคัญ จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ ในการกู้ยืมเงินมีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น ท่านว่าจะนำสืบการใช้เงินได้ต่อเมื่อมีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ให้ยืมมาแสดงหรือเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมนั้นได้เวนคืนแล้ว หรือได้แทงเพิกถอนลงในเอกสารนั้นแล้ว
              
                 พอได้อ่านแล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ หลายคนที่เป็นเจ้าหนี้ก็กังวลสิครับ สัญญาก็ไม่ได้ทำ เงินจะได้คืนไหมเนี่ย ฝั่งลูกหนี้ก็หัวหมอสิครับ สัญญาไม่ได้ทำ พอลูกหนี้รู้เช่นนี้แล้วก็บอกเจ้าหนี้ไปว่า อยากได้ไปฟ้องเอา ความแค้นก็มา ความแค้นมาก็ฟ้องสิครับ แต่ทีนี้จะฟ้องยังไง ก็ในเมื่อสัญญาไม่มี 
                ส่วนใหญ่เจ้าหนี้ก็จะมาหาผมลักษณะนี้แหละ ลองสังเกตุจากมาตรา 653 ดูนะ  เค้าบอกว่า การกู้ยืมต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ถ้าไม่มีจะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ (เจ้าหนี้อ่านมาแล้วกันทั้งนั้น มาหาผมก็จะโวยกันแบบนี้แหละ ในใจผมก็คิดนะถ้ามรึงมั่นใจแล้วจะมาหากรูทำไมละฟระ)
                แต่ครับ...แต่มันมีทางออกเสมอ ในทางปฏิบัติเวลาทนายฟ้องร้องต่อศาลหากไม่มีสัญญา ทนายเราจะอ้างว่า เมื่อคำเสนอสนองต้องตรงกันแล้วสัญญาจึงเกิดขึ้น แม้จะไม่ได้ทำเป็นหนังสือสัญญา แล้วเวลาสืบคดีสืบยังไงล่ะ ก็สืบหลักฐานการโอนเงินสิครับ ใช่ อย่างที่ท่านคิดนั่นแหละครับ เวลาคนมายืมเงินเราเนี่ย ไม่ได้ให้เงินสดกันหรอก (ส่วนใหญ่ที่เป็นคดีกันก็ให้ยืมจำนวนเงินที่เยอะ ถ้าน้อยมันไม่ฟ้องกันหรอก) เงินจำนวนมากไม่มีใครเค้าเอาเงินสดให้กันหรอกครับ เท่านี้เราก็ฟ้องได้แล้ว (แต่ถ้าไม่มีหลักฐานการโอนเงินให้ก็แพ้คดีนะครับ เพราะถ้าลูกหนี้บอกว่าเงินยังไม่ได้รับโอนมาศาลยกฟ้องแน่นอน หลักสำคัญมันอยู่ที่ว่า ได้รับเงินหรือยังนั่นแหละครับ)
               ส่วนหลังจากนี้ลูกหนี้จะมีเงินคืนหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องของช่วงหลังคำพิพากษาแล้วซึ่งเจ้าหนี้จะต้องบังคับคดีเอากับลูกหนี้เอาเอง วิธีการบังคับคดีจะทำอย่างไรนั้น ผมจะมาเล่าให้ฟังในครั้งต่อไปนะ

ทนายอิศรา
โทร 084-7046529
ปรึกษาฟรีตลอด 24 ชั่วโมงด้วยความใจดี
          

วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

เมาแล้วขับ ทำยังไงดี !?

พฤษภาคม 08, 2560 2
Credi pic : https://www.deccanchronicle.com/nation/current-affairs/110716/hyderabads-drunk-drive-habit-continues.html

ทำยังไงดี ! ?เมาแล้วขับ โดนด่านตรวจแอลกอฮอล์


            เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว ผมได้ไปดื่มสังสรรค์กับเพื่อนที่พัทยา (บ้านผมอยู่ชลบุรีครับ) หลังจากดื่มกันเสร็จ ก็เมาสิครับ บ้านก็ต้องกลับ ถ้าไม่กลับจะไปนอนที่ไหน ระหว่างทางที่กลับ แน่นอนครับ เห็นมาแต่ไกลเลย ไฟแว้บ..แว้บ... พี่ตำรวจนี่เอง ในใจผมคิดว่าซวยแล้วววว เอายังไงดี ในหัวเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับการเมาแล้วครับผุดมาเพียบเลย พ.ร.บ.จราจรทางบก หากในร่างกายมีระดับแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัม ค่าปรับ 20,000 จำคุกไม่เกิน 1 ปี ยังไงผมก็มั่นใจว่าแอลกอฮอล์ในร่างผมนั้นทะลุ 500 มิลลิกรัม แน่นอน 555+ (ก็ซัดเบียร์ไปเกือบลัง กินตั้งแต่ห้าโมงเย็นยันตี 1) 
ระหว่างขับไปรถก็ใกล้เข้าไปใกล้ด่านทุกที ทุกที เอาไงดีวะ  ทันใดนั้นเหลือบซ้ายมองเห็นซอยครับ ซอยอะไรไม่รู้ เข้าครับเข้า เข้าไปโล้ดดดด เข้าซอยแบบไม่คิดชีวิตเลยครับ พอเข้าซอยได้ไม่เท่าไหร่ ผมดับรถ ล๊อคประตู แง้มหน้าต่างเล็กน้อย ตัดสินใจ นอนครับ นอนนนนนนนน
           ผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง ด่านตรวจแอลกอฮอล์ไม่มีแล้วครับ โล่งใจ รอดแล้ว
           หลังจากนั้นหากผมดื่มผมจะไม่ขับรถอีกเลยครับ อนาคตเสียแน่ๆๆ ใบขับขี่ไม่เท่าไหร่ แต่ใบอนุญาตทนายความผมปลิวแน่ๆๆ  T^T
          หากใครผู้ใดคิดว่า คิดว่าเจ๋ง ลองเมาแล้วขับดูนะครับ จากประสบการณ์อาชีพทนายความของผม ไม่เคยเห็นใครรอดครับ ไม่ปรับก็ติดคุกครับ ศาลสมัยนี้สั่งจริงนะ !!!!

ทนายอิศรา
โทร 084-7046529
ปรีกษาฟรีตลอด 24 ชั่วโมงด้วยความใจดี
       
             

คดีแรงงาน : ลูกจ้างตัวแสบ

พฤษภาคม 08, 2560 0
Credit pic : http://www.imperiumlegum.com/labour-employment/

คดีแรงงาน : ลูกจ้างตัวแสบ



คดีนี้เริ่มต้นที่ขณะนั้นผมอยู่ในขณะที่กำลังท่องเที่ยวอยู่ที่จังหวัดกระบี่
วันนั้นเป็นวันที่แดดเปรี้ยงปร้าง ร้อนจนผิวหนังไหม้ ร้อนจนตัวทนายจะระเหยขึ้นไปในอากาศ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เบอร์แปลก (อาชีพผมเบอร์แปลกโทรมาทุกวัน กลัวเจ้าหนี้จะโทรทวงเงิน แต่ไม่รับก็ไม่ได้ อาจจะเป็นลูกความ ไม่รับเดี๋ยวไม่มีเงินอีกกรู = =")

ผม :               สวัสดีครับ
ลูกความ         สวัสดีคะ ทนายอิศรา ใ่ช่ไหมคะ
ผม                 ใช่ครับ
ลูกความ         คือฉันต้องการปรึกษาเกี่ยวกับคดีแรงงานคะ เรื่องมีอยู่ว่า ชั้นเปิดบริษัทแล้วจ้างลูกจ้างรายนี้ (ผมสมมติชื่อว่า) นายไก่  ซึ่งนายไก่ทำงานตำแหน่งเซลล์ โดยบริษัทชั้นกำหนดว่า เซลล์จะต้องไปหาลูกค้าตามร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ 40 ร้านหรือบริษัท ต่อเดือน โดยไม่จำเป็นจะต้องปิดการขาย ขอแค่เข้าไปแนะนำตัวเองก็พอ หากทำได้ไม่ครบตามที่กำหนด 40 ร้านหรือบริษัท ต่อเดือน บริษัทชั้นจะหักเงินเดือนครึ่งหนึ่ง มีการเซ็นสัญญากันเรียบร้อย
                       ต่อมา นายไก่ ไม่สามารถที่จะทำได้ตามกำหนดสัญญา บริษัทชั้นจึงหักเงินครึ่งหนึ่งของเงินเดือน นายไก่จึงไปฟ้องกรมสวัสดิภาพคุ้มครองแรงงาน ตอนนี้ชั้นโดนหมายเรียกจากกรมฯดังกล่าว ควรจะต้องทำอย่างไรดีคะ
ผม                 มีการเซ็นสัญญาทุกอย่างเรียบร้อยนะครับ แล้วบริษัทได้ทำระเบียบข้อบังคับไว้ไหมครับ
ลูกความ        สัญญาทำคะ แต่ระเบียบข้อบังคับไม่มีคะ อ่อ หลังจากนั้นชั้นก็ไล่เค้าออกเลยคะ เพราะรับไม่ได้ที่มาฟ้องบริษัท แล้วพอชั้นไล่เค้าออก ชั้นก็ทวงโทรศัพท์ที่ให้เค้าใช้ในการทำงานคืน ปรากฎว่านายไก่ไม่ยอมคืนคะ บอกว่าถ้าไม่จ่ายค่าจ้างครึ่งหนึ่งก็จะไม่คืนโทรศัพท์ และนายไก่ ไปเก็บเงินจากลูกค้ามาจำนวน 30,000 บาท ซึ่งโดยปกติเป็นหน้าที่นายไก่ที่จะต้องไปเก็บเงินจากลูกค้าอยู่แล้ว โดยจะไปเก็บเงินทุกๆต้นเดือน แต่บริษัทก็ยังไม่ได้รับเงินมาจากนายไก่เลย จนถึงช่วงสิ้นเดือน ช่วงที่ไล่นายไก่ออกเนี่ยแหละคะ ชั้นจึงทวงเงินไป แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับใดๆกลับมา
       
       

          หลังจากนั้นผมก็ตกลงรับทำคดีนี้ให้ครับ ในคดีนี้สำหรับผมนะครับ นายจ้างไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ก็ไม่สามารถที่หักเงินลูกจ้างได้ หากลูกจ้างทำผิดพลาดประการใดทำได้เพียงแค่การตักเตือน และนายควรที่จะทำระเบียบข้อบังคับของบริษัทไว้ ว่าการกระทำอย่างไรจึงจะเป็นความผิดร้ายแรง ความผิดใดไม่ร้ายแรง และกำหนดโทษเป็นลำดับขั้นเช่น ครั้งที่ 1 พักงาน ครั้งที่ 2 หักเงินเดือน ครั้งที่ 3 ไล่ออก เป็นต้น ในกรณีนี้  นายจ้างค่อนข้างที่จะเสียเปรียบครับ
         ส่วน นายไก่ ทำผิดพลาดอย่างหนึ่ง คือ การที่ไม่ยอมคืนโทรศัพท์แก่นายจ้างหลังจากที่นายจ้างไล่ออกไปแล้ว อีกทั้งยังไม่ยอมคืนเงินที่ไปเก็บมาจากลูกค้าของบริษัทให้นายจ้าง ก็ต้องบอกได้ว่านี่แหละครับช่องทางของผมเลย (ทนายท่านอื่นผมไม่ทราบว่าคิดอย่างไร เพราะแต่ละท่านก็จะมีความคิดที่แตกต่างกันออกไป)

        เมื่อผมคิดได้ดังนั้น ผมจึงโทรไปลูกจ้างของลูกความผม เพื่อที่จะได้อธิบายให้เค้าเข้าใจถึงปัญหาที่จะตามมา (ผมไม่ได้ข่มขู่เค้านะ 555+) ปรากฎว่าไงรู้ไหมครับ มันด่าผมครับ มันด่ามาเป็นชุดเลย แล้วไอ้นายไก่คนนี้ มันก็ตัดสายผมไป (มันทำผมแค้นครับ กรูแค้นนนน ด่ากรูแล้วหนี 555+)
        ต่อมาผมจึงได้พาลูกความผมไป ดำเนินการร้องทุกข์ ต่อตำรวจเกี่ยวกับการที่ นายไก่ นำเงินลูกค้าของบริษัทไปไม่ยอมคืน กับโทรศัพท์ที่ไม่ยอมคืน เป็นคดียักยอกทรัพย์นายจ้าง
         หลังจากนั้น นายไก่ ก็โอนเงินที่เค้าไปรับเงินจากลูกค้าบริษัทให้แก่ลูกความผม อีกทั้งยัง แอบ (ต้องใช้คำว่าแอบครับ) ไปคืนโทรศัพท์โดยฝากไว้ที่ แม่บ้าน ของนิติบุคคลที่บริษัทลูกความผมเช่าตึกอยู่ พร้อมให้แม่บ้านเซ็นรับของด้วย (แหม้้ๆๆๆๆ มันฉลาดเว้ย แต่ทุกอย่างเป็นไปตามแผนผมครับ ผมคิดว่าที่นายไก่มาคืน เพราะว่าได้รับหมายเรียกจากตำรวจ นายไก่จึงรีบนำไปคืนพร้อมให้แม่บ้านเซ็นรับของ)
        ผ่านไปสองสามวัน ตำรวจโทรมาหาผมบอกว่า นายไก่ มาที่ สน. แล้วผมก็รีบไปที่ สน. เลยครับ ก็เจรจากันไปกันมา มันด่าผมอีกแล้ว แถมไอ่นายไก่ยังบอกว่าผมคืนเงินและโทรศัพท์แล้ว ถ้ายังดำเนิคดีกับมัน มันจะฟ้องแจ้งความเท็จ ผมจึงถามมันกลับไปว่า "คืนโทรศัพท์กับใคร ที่ไหน เวลากี่โมง" นายไก่ตอบกลับมาว่า "คืนที่ แม่บ้าน ช่วงเย็น และผมมีใบเซ็นรับของด้วย" ผมถามต่อไปอีกว่า "ช่วงเย็นคืนตอนพระอาทิตย์เป็นสีอะไร" นายไก่ตอบกลับมาว่า "สีส้มๆ เกือบมืด" ผมถามต่อด้วยความรวดเร็ว "แม่บ้านเป็นลูกจ้างของบริษัทหรือไม่ บริษัทเป็นเจ้าของอาคารหรือเช่าแค่ห้องเดียวทำบริษัท" นายไก่ตอบด้วยท่าทีที่โกรธนิดหน่อย "ผมไม่รู้"
      ผมจึงเน้นย้ำไปที่เค้านะครับว่า เอาแบบนี้ไหม คดีแรงงานที่ท่านไปร้องเรียนมาไปถอนคดีซะ ถ้าทำแบบนี้ผมจะถอนคดีอาญาแล้วเลิกแล้วต่อกัน ส่วนเงินเดือนที่เหลือครึ่งหนึ่งนายจ้างพร้อมจ่าย ไม่งั้นก็เจอกันที่ชั้นศาล
      ไอ่นายไก่มันสวนผมมาว่า ไม่ครับ ผมก็อยากจะรู้ว่าความยุติธรรมมันมีอยู่จริงไหม !!!!
      ในสมองของผม ณ ตอนนั้นนะครับ มันสงบนิ่งพร้อมตอบคำถามในไก่ในใจว่า ถ้านายไก่ไม่ไปทำตัวผิดสัญญากับนายจ้าง อีกทั้งยักยอกทรัพย์ของนายจ้างเค้า แล้วนายจ้างเค้าจะไล่ออกไหม อีกทั้งตอนนี้ ยังไปร้องเรียนดำเนินคดีกับเค้าอีก โธ่ ไอ่ไก่เอ้ยยย
       
         ผมจึงได้ดำเนินคดีในข้อหา ยักยอกทรัพย์นายจ้าง ต่อนายไก่ไป ซึ่งในระหว่างนี้ทางบริษัทลูกความผมก็โดนคำสั่งจากกรมค้มครองสวัสดิการแรงงานให้ชำระเงินส่วนเหลือให้กับลูกจ้าง พร้อมค่าชดเชยที่ถูกไล่ออกรวมๆเป็นจำนวนเงินเกือบแสนบาท
         ในคำสั่งของกรมคุ้มครองสวัสดิการแรงงานผมยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลว่า เนื่องจากลูกจ้างกระทำความผิดร้ายแรงยักยอกทรัพย์นายจ้าง การที่นายจ้างไล่ออกจึงเป็นการที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว บริษัทไม่จำเป็นจะต้องจ่ายค่าชดเชยแต่อย่างใด ส่วนเงินเดือนส่วนที่เหลือนายจ้างไม่ติดใจพร้อมที่จะชำระส่วนที่เหลือให้

        เรื่องนี้คดีดำเนินไปจนถึงชั้นศาลทั้งสองคดี แต่คดีแรงงานศาลสั่งพักการพิจาณาไว้ก่อนเนื่องจากผมแจ้งต่อศาลท่านว่า คดีนี้นายจ้างยังได้ฟ้องร้องเรื่องการยักยอกทรัพย์นายจ้างไว้อยู่
       ในส่วนคดีอาญาในชั้นสืบพยาน ตอนแรกที่เห็นหน้านายไก่ซ่าๆเก๋าๆนะครับ พออยู่ในศาลทำไมมันทำหน้าตาน่าสงสารจังละฟระ = =" ตอนสืบพยานผมได้ซักถามนายไก่ไปหลายคำถาม แต่ที่ทำให้นายไก่ไปไม่เป็นเลย ซึ่งผมถามว่า

ผม      นายไก่ปกติมีหน้าที่รับเงินจากลูกค้าของนายจ้างหรือไม่
ไก่      ใช่ครับ
ผม      หลังจากรับมาต้องคืนเงินภายในกี่วัน
ไก่      ปกติผมจะคืนทุกสิ้นเดือนครับ
ผม      งั้นผมรบกวนนายไก่ดูรายการแจ้งเงินฝากของบริษัทให้ทีว่า เดือนทีผ่านๆมาคุณไก่โอนเงินลูกค้า            ช่วงวันที่เท่าไหร่ของเดือน (หน้าตามันจะฆ่าผมแล้ววววว)
ไก่      ประมาณวันที่ 7- 10 ของทุกเดือนครับ
ผม     แล้วตอนที่คุณไก่ไปคืนโทรศัพท์ของนายจ้าง คืนก่อนที่บริษัทจะไล่ออกหรือหลังไล่ออกครับ
ไก่     คืนก่อนนายจ้างไล่ออกครับ
ผม      บริษัทไล่ออกวันที่เท่าไหร่ครับ
ไก่      วันที่ 7 ครับ
ผม     คืนตอนช่วงเวลาอะไรครับ
ไก่     นายไก่ตอบเหมือนที่ สน. เลยครับ ช่วงเย็นๆตอนพระอาทิตย์สีส้มๆ มืดๆ (การที่ผมถามไปใน                     ลักษณะนี้ก็เพื่อให้เค้าแสดงเจตนามา หากคนเราบริสุทธิ์จริงจะต้องคืนตอนกลางวัน ตอนกลางคืน           มีแต่พวกโจรเท่านั้นแหละที่ำทกัน)
ผม      แล้วทำไมถึงคืนละครับ
ไก่      ก็บริษัทวงน่ะครับ
ผม     ไม่ใช่เพราะว่ามีหมายจากตำรวจไป แล้วกลัวความผิดถึงคืนหรอครับ
ไก่      ไม่ใช่ครับ
ผม     งั้นรบกวนดูวันที่รับหมายเรียกจากตำรวจหน่อยนะครับ และคนเซ็นรับหมายด้วย เป็นอย่างไรบ้างครับ(มันจะฆ่าผมอีกแล้วววววว)
ไก่      ครับ ผมคืนหลังจากได้รับหมายเรียกครับ
ผม      คืนโทรศัพท์กับใครครับ
ไก่      แม่บ้านครับ
ผม     แม่บ้านเป็นลูกจ้างของนายจ้างหรือไม่ครับ แล้วแม่บ้านเค้าจะรู้จักนายจ้างหรอ
ไก่      เอ่อ คือ  ผมไม่แน่ใจครับ

         แล้วผมก็ซักถามต่ออีกมากมายนะครับแต่ประเด็นที่ชี้ชะตาไอ่นายไก่คือคำถามเหล่านี้แหละครับ หลังจากการพิจารณาคดีอาญาจบ ผมกับนายไก่ก็ได้เจอกันทีศาลแรงงานต่อซึ่งเป็นการไกล่เกลี่ยกัน ผมจึงแจ้งกับนายไก่ไปว่า จะเอาอย่างไร คดีอาญาใกล้จบแล้วหากศาลมีคำพิพากษามาโชคดี คุณไก่ก้พ้นผิด โชคร้ายติดคุก จะเลือกทางไหนดี ระหว่าง
1 ถอนคดีแรงงาน นายจ้างถอนคดีอาญา
2 รอผลตัดสินคดีอาญา โชคดีพ้นผิดไม่ติดคุกได้เงินไปเกือบแสนในคดีแรงงาน โชคร้ายติดคุกเงินไม่ได้ใช้สักบาท
       เป็นที่แน่นอนครับ นายไก่ เลือกช่องทางแรก แต่ผมก็ได้บอกให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยให้เค้าเล็กๆน้อยๆไปส่งสารเค้านะครับ นายจ้างก็บอกผมว่า เค้าแค่ต้องการจะสั่งสอนคนแบบนี้ ไม่ใช่ว่านายไก่คิดอยากจะทำอะไรก็ทำ ซึ่งลูกความผม ไปสืบทราบมาภายหลังโดยวิธีการโทรไปยังบริษัทเก่าๆที่นายไก่ทำงาน ปรากฎว่าเค้าทำลักษณะนี้คือ ไม่ตั้งใจทำงาน พอโดนไล่ออกก็ไปฟ้องกรมคุ้มครองสวัสดิการแรงงาน นายจ้างส่วนใหญ่ไม่อยากมีปัญหาจึงจ่ายเงินให้นายไก่ไป
   
      คดีนี้ก็เป็นอันจบลงครับ ผมก็อยากจะเตือนทั้งนายจ้างและลูกจ้างทั้งหลายนะครับว่า อย่าไปคิดเลยว่ากฎหมายเข้าข้างลูกจ้าง หรือกฎหมายเข้าข้างนายจ้าง แบบนี้พวกตนก็เสียเปรียบสิ อย่าไปคิดแบบนั้นนั้นครับ คนเรานะครับถ้าไม่ได้ตั้งใจหรือคิดที่จะเบียดเบียนใครจะไม่มีความคิดเช่นนี้เกิดขึ้นในสมองเลย
เชื่อผมเถอะครับ ผมเจอปัญหานายจ้างลูกจ้างมาเยอะครับ

ทนายอิศรา
โทร 084-7046529
ปรึกษาฟรี 24 ชั่วโมง ด้วยความใจดี

วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

ฟ้องหย่า คดีแรก

พฤษภาคม 07, 2560 0
Credit pic : http://www.apa.org/helpcenter/healthy-divorce.aspx

ฟ้องหย่า : ชาวต่างชาติ


สำหรับโพสต์นี้เป็นโพสต์แรกสำหรับผม ซึ่งผมตั้งใจที่จะทำบล็อกออกมาเพื่อเล่าถึงประสบการณ์การว่าความในแต่ละคดีและทางแก้ในแต่ละคดี เพื่อเป็นแนวทางให้สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษากฎหมาย หรือสำหรับคนที่กำลังมีปัญหา และก็เพิ่อความบันเทิงนิดหน่อย (ถ้าชอบเรื่องแนวๆกฎหมายทนายความนะ ^^ )

คดีแรกที่ผมทำหลังจากที่สอบได้ใบอนุญาตว่าความเพียง 1 อาทิตย์เท่านั้น ใช่ครับ 1 อาทิตย์ ผมได้แล้วคดีแล้ว วั้นนั้นเป็นวันที่ท้องฟ้าสดใส บรรยากาศเป็นใจ แม่ผู้เป็นสุดที่รักของผมโทรมาหาผม ขณะกำลังนั่งอ่านหนังสือการ์ตูน !! (เรียนกฎหมายมันเครียดก็ต้องพักผ่อนบ้าง)

ผม "ฮัลโหลครับแม่"
แม่  "ลูก แม่มีคดีให้ลูกทำ"
ผม  "คดีไรแม่"
แม่   "หย่า เดี๋ยวแม่ให้เบอร์เค้าแล้วลูกโทรไปหาเค้านะ แม่บอกเค้าแล้ว" ตื้ด ตื้ด ตื้ดดดดด

ยังไม่ทันตกลงแม่ก็วางสายไปแล้ว
ณ ตอนนั้น ผมคิดว่าเอาไงดีวะ อาจารย์สอนว่าความก็ไม่มี คดีก็ไม่เคยทำ เคยแต่สอบ กว่าจะสอบผ่านก็หลายปี เอาวะ กดโทรโล้ด ทนายใจต้องกล้า

ผม           "สวัสดีครับ ผมทนายความนะครับ"
ลูกความ  "อ่อ คะ" (ในใจคิด โอ้ว เสียงน่ารักแฮะ -///-)
ผม           "ครับ ต้องการทนายใช่ไหมครับ พอดีว่ามีคนติดต่อมาว่าให้ผมโทรหาคุณ"
ลูกความ   "ใช่คะ คือ ชั้นต้องการหย่ากับสามีคะ สามีเป็นคนต่างชาติ ซึ่งตอนนี้เค้าหนีไปแล้วตามตัวไม่                    ได้ ที่ต้องการจะหย่า เพราะว่าฉันมีลูกแล้ว เวลาจะทำนิติกรรมอะไรเกี่ยวกับลูกจะต้องให้สามี                     มาทำเรื่องด้วย แต่ตอนนี้ตามตัวไม่ได้ คุณทนายพอจะช่วยได้ไหมคะ"
ผม             (ในใจผมตอนนั้น บอกตรงๆโคตร งง ) "อ่อได้ครับ งั้นผมขอนัดรับเอกสารเพื่อดำเนินการฟ้อง                   ร้องคดีเลยได้ไหมครับ"
ลูกความ     "ได้คะ ว่าแต่ ค่าคดีเท่าไหร่คะ"
                   (ในส่วนนี้บอกตรงๆนะครับ เป็นส่วนที่ทนาย (น่าจะทุกคน) หนักใจมากครับ เรียกแพงไป ก็                        อดทำคดี เรียกถูกไปก็ไม่คุ้ม แต่เพื่อความอยู่รอดของเราบวกกับ ค่าเรียน ค่าเทอม ค่า                              วิชาชีพ เอาแพงไว้ก่อนวุ้ย ก็เลยตอบเค้าไปว่า
ผม             "สามหมื่นครับ "
ลูกความ     "ตกลงคะ"
ผม             (หืม ได้หรอวะ แต่ผมทำไม่เป็นนะ แต่ไม่ได้บอกเค้าไป ประมาณว่า ถ้าไม่กล้าแล้วจะทำได้                        หรอวะ เอ้าาลุยยย)
                   งั้นผมขอเอกสารดังต่อไปนี้นะครับ
                   ใบสำคัญการจดทะเบียนสมรส
                    เอกสารประจำตัวของสามี เช่น หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตทำงาน

         หลังจากนั้นก็นัดรับเอกสารเรียบร้อย ส่วนผมก็งงเป็นไก่ตาแตกเลยครับ ต้องเริ่มยังไง ไปที่ไหนก่อน ความรู้ที่เรียนมามันสอนแต่ภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติต้องใช้คำว่า โง่ เลยครับ นั่งนึกไปนึกมา เรามีรุ่นพี่เป็นทนายนี่หว่า อยากรู้ต้องถาม กดโทรโล้ดดดด
         พอโทรไปก็โดนด่ากลับมาครับ มึงเรียนมาแล้วทำไมไม่รู้ ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ก็บอกไว้หมดแล้วไปอ่านเอา
         นั่นแหละครับ เป็นเหตุให้อาชีพทนายต้องอ่านหนังสือตลอดชีวิต หลังจากนั้นผมอ่านใหม่หมดเลยครับจนได้เรื่อง ก็เลยจัดการพิมพ์ฟ้อง คำแถลงขอปิดหมาย คำขอท้ายฟ้องแพ่ง ฯลฯ เสร็จแล้วก็ยื่นฟ้องที่ศาลเยาวชนและครอบครัวฯ
         แต่ ที่ผมกังวล คือ ที่ลูกความผมบอกว่าฝ่ายชายตามตัวไม่เจอแล้ว เอาแล้วไง จะส่งหมายไปไหน เพราะในการที่จะส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้กับ จำเลย ทนายจะต้องมีที่อยู่ให้ศาลไม่งั้นศาลไม่ส่งให้ ถ้าจะขอให้ศาลปิดหมายก็จำเป็นจะต้องมีหลักฐานที่แสดงว่าจำเลยอยู่ที่นั่นจริงๆ
        ทำไงดีล่ะ ปั่นฟันเฟืองสมองทนาย คิดไปคิดมา เราก็ส่งหมายเรียกแบบธรรมดาไปสิไม่ต้องปิดหมาย ไปที่ที่ฝ่ายชายเค้าเคยอยู่ คอนโดไง คอนโดฝ่ายชาย ในที่สุดก็เคลียร์ได้ไปหนึ่งอย่าง
        ปัญหาแรกผ่านไป ปัญหาต่อมามันอยู่ที่ตอนสืบพยาน ไม่เคยมีใครบอกว่าสืบพยานต้องถามอะไรบ้าง ต้องพูดอะไรบ้าง ซักพยานอย่างไร ผมซื้อหนังสือแทบจะทุกเล่มที่เกี่ยวกับการสืบพยานมาอ่าน ประกอบกับการนั่งมโนเอง จนเริ่มที่จะมั่นใจมากขึ้น
   
        ณ วันที่ศาลนัดสืบพยาน ใจผมเต้นแรงมาก หัวใจผมมันจะทะลุออกมามั้ยเนี่ย
       เมื่อเข้าไปในห้องพิจารณา ทนายเข้าที่นั่งทนาย ส่วนลูกความผมซึ่งผมอ้างเป็นพยานในคดี ก็นั่งรอเพื่อสืบพยานในที่นั่งของประชาชน รอสักพักหนึ่ง ท่านผู้พิพากษาก็เข้ามาที่ห้องพิจารณา บรรยากาศเงียบมากกกกกก และท่านก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงที่โคตรดัง และก็โคตรดุ ว่า
ผู้พิพากษา     "ทนาย ฟ้องหย่าใช่ไหม
ผม                  "ครับ ท่าน"
ผู้พิพากษา     "ท่านได้ทำคำเบิกความมาไหม" (หลังจากนั้นผมก็ไปอ่านหนังสือเพิ่มเติมความฉลาดใส่                          หัว คำเบิกความก็คือ เอกสารที่ทนายจัดทำขึ้นมาโดยในคำเบิกความนั้นจะมีคำถามที่                                 ทนายจะใช้ถามพยานอยู่นั่นเอง)
ผม                  ในใจคิดว่า แมร่งคือไรวะ ในหัวผมนี่เปิดประมวลอย่างไว แต่ก็ยัง งง อยู่ และเหมือนท่านผู้                         พิพากษาจะรู้ว่าผมไม่ได้ทำ และท่านก็กระซิบผมเบาๆว่า ทนายใหม่ใช่ไหม ผมก็กระซิบ                           ตอบท่านว่า ใช่ครับท่าน
ผู้พิพากษา       "ไม่เป็นไรงั้นก็ สืบพยานเลย"
ผม                   "ผมก็ตอบท่านฯไปว่า ได้ครับ"

ผมจึงเชิญลูกความผม ให้มาที่คอกพยาน หลังจากนั้นผมก็ให้กล่าวสาบานตน (ตรงคอกพยานจะมีบทการกล่าวสาบานตนอยู่
หลังจากสาบานตนเสร็จ ผมก็ซักถามไปว่า
พยานจดทะเบียนสมรสเมื่อไหร่ ที่ใด หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นทำไมจึงตัดสินใจฟ้องหย่า มีการทะเลาะกัน มีปากเสียงกันหรือไม่  ระหว่างที่อยู่กินกันมีบุตรด้วยกันหรือไม่ ฯลฯ

เมื่อการสืบพยานเสร็จสิ้นลง ในใจผมตอนนั้นอารมณ์แบบ ดีใจ มาก ผมทำได้ หลังจากนั้นก็รับเงิน
   
     การว่าความครั้งแรกของผม ผ่านไปได้ด้วยดี ทำให้ผมมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เป็นคดีที่ผมภูมิใจมากที่สุด ซึ่งก็ผ่านมานานมากหลายปีแล้ว แต่ความรู้สึกยังจำได้ไม่เคยลืม



ทนายอิศรา
ติดต่อ 084-704-6529
ปรึกษาได้ตลอด 24  ชม ด้วยความใจดี