ย้อนคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหวยอลเวง 3 คดีในอดีตที่ศาลเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด
จะไม่กล่าวอ้างถึงคดีปัจจุบันนะคะไม่อยากมีประเด็นกับใครทั้งนั้น แต่จะขอยกขอย้อนคำพิพากษาศาลฎีกาหวยอลเวงมาเล่าสู่กันฟังอย่าดราม่า ไม่ดราม่านะคะทุกท่าน
เริ่มต้นด้วยคำพิพากษาศาลฎีกา เลขที่ 2578/2530 ที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ นำมากล่าวอ้าง คดีนี้ นายวุ่น อัครกิ่ง โจทก์ฟ้องสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นจำเลย โดยระบุคำฟ้องว่า ได้ทำสลากที่ถูกรางวัลที่ 4 สูญหาย แต่มีหลักฐานภาพถ่ายสลากที่สูญหาย และใบแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ โดยส่งมอบหลักฐานให้จำเลย เพื่อขอให้จ่ายเงินรางวัล และดอกเบี้ย คดีนี้ศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนแนวทางเดียวกัน ให้จำเลยจ่ายเงินแก่โจทก์ โดยศาลฎีกา วินัจฉัยว่า เงื่อนไขการรับรางวัลที่ด้านหลังสลากทุกฉบับ ระบุว่าเงินรางวัลจะจ่ายแก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลนำมาขอรับ ไม่ใช่ข้อกำหนดที่จะไม่จ่ายเงินรางวัลแก่ผู้ถูกรางวัล ที่สลากหายไป จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์
คำพิพากษาศาลฎีกาเลขที่ 464/2515 จ่าเอกมาโนช เชาว์ฉลาด เป็นโจทก์ ฟ้องกระทรวงการคลัง ที่มีนายเสริม วินิจฉัยกุล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นจำเลย คำฟ้องระบุว่า โจทก์ซื้อสลาก 1 คู่ และฉีกสลากส่วนล่างให้ภรรยาเก็บไว้ กระทั่งถูกรางวัลที่ 2 แต่พบสลากส่วนล่างที่ภรรยาเก็บไว้ สูญหาย จึงแจ้งความร้องทุกข์ตำรวจ เมื่อไปขอขึ้นเงินรางวัล จำเลยปฏิเสธจ่ายเงินในส่วนสลากที่หายไป คดีนี้ศาลฎีกา เห็นว่า แม้ด้านหลังสลากทุกฉบับจะระบุว่า เงินรางวัลจะจ่ายแก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลนำมาขอรับเท่านั้น แต่เมื่อโจทก์มีหลักฐานเชื่อได้ว่า เป็นเจ้าของสลากจริง ฉะนั้นเพียงพอที่จำเลย ต้องจ่ายเงินรางวัลให้โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาเลขที่ 3409/2529 นางสมหมาย ปอดีเสมอ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จำเลย คำฟ้องระบุว่า โจทก์ถูกสลากรางวัลที่ 3 แต่ไม่สามารถนำสลากไปขึ้นเงินรางวัลได้ แต่บุตรสาวเข้าใจผิด นำไปเผาไฟเสียหาย โจทก์แจ้งความร้องทุกข์ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน แต่จำเลยปฏิเสธจ่ายเงิน สุดท้ายศาลฎีกา พิพากษายืน พร้อมระบุว่า โจกท์มีการซื้อสลากมาจากแม่ค้าชื่อใบ และถูกนำไปเผาจริง ประกอบกับยังไม่มีมีใครนำสลากชุดนี้มาขึ้นเงินรางวัล แม้จะมีการระบุหลังสลากว่า จะจ่ายเงินแก่ผู้ถือสลากนำมาขึ้นรางวัล แต่เมื่อพิสูจน์ได้ว่า โจทก์เป็นเจ้าของจริง จำเลยต้องจ่ายเงินให้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น